วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วิธีการทักทายแบบต่างๆ นอกเหนือจากการ Hand Shake
นอกจากการจับมือ หรือ การสั่นมือ แล้ว ยังมีการทักทายด้วยกริยาท่าทางต่างๆอีกมากมาย ซึ่งแตกต่างกันไปตามเชื้อชาติ ศาสนา เพศ และ อายุ แต่ที่พบเห็นกันได้ทั่วไปนั้น ได้แก่
- Engage in a hand clasp, followed by a one-armed hug/half-hug and a gentle slap on the back.
การจับมือกันแล้วตามด้วย การโอบกันแบบครึ่งตัว (one-armed hug/a half-hug) พร้อมกับ การตบหลังเบาๆ (a gentle slap on the back) วิธีนี้เป็นวิธีการที่ผู้ชายมักใช้กันในการทักทายกันกับเพื่อนสนิท หลังจากการจับมือกัน เพื่อแสดงถึงความสนิทสนม
- Fist bump or Knuckle bump
การเอากำปั้นชนกัน เป็นการทักทายกับคนที่สนิทสนม ซึ่งทำได้โดยการเอากำปั้นไปชนกันเบาๆ (อย่าไปรุนแรงเด็ดขาด อาจมีเรื่องได้…)
- A full hug or shoulder squeeze
การโอบกันเต็มตัว (full hug) หรือ การบีบไหล่ (shoulder squeeze) เป็นการทักทายเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นเวลานาน
- A gentle kiss and hug
การจูบที่ปากเบาๆแล้วกอดนั้นเป็นการทักทายระหว่างหญิงและชายที่เป็นคู่รักกัน หรือ เพื่อนมีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษ
- Kissing on a cheek or both cheeks
การหอมแก้ม (cheek-kiss) และโอบนั้นเป็นการทักทายกันโดยทั่วไประหว่างทุกเพศ แม้กระทั่ง ระหว่าง ชายกับชาย โดยวิธีการหอมแก้มนั้น อาจไม่ต้องหอมจริงๆก็ได้ โดยเราอาจจะใช้ Air kiss หรือ จูบอากาศ เข้ามาช่วย
- Hi 5
การทักทายแบบตบมือกัน หรือ "Hi 5" นั้น เป็นการทักทายที่เป็นที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่น ทำง่ายๆโดยการชูมือขึ้นแล้วตบมือกัน โดยมักใช้กันในโอกาสที่ได้พบเจอกับเพื่อนที่ค่อนข้างสนิท
- Just wave “Hi”
การโบกมือเฉยๆ อาจนำไปใช้ในการทักทายได้ เมื่อเราเจอกับคนที่เรารู้จัก แต่ไม่สนิทกันสักเท่าไร
และนอกจากการทักทายต่างๆที่ยกมาแล้ว ยังมีวิธีอื่นๆอีกมากมายที่ไม่สามารถเอามาพูดได้หมด
ยังไงก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อย และหวังว่าเด็กอิงก์ทุกคนจะสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปใช้ในโอกาสต่างๆได้ไม่มากก็น้อย
Good Luck, Fellas !!
วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554
Active Voice / Passive Voice
ประโยค Active Voice คือ ประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ หรือ แสดงกริยาโดยตรง
Subject + Verb |
ตัวอย่างเช่น
He plays tennis. (เขาเล่นเทนนิส)
I will clean the house tonight. (ฉันจะทำความสะอาดบ้านคืนนี้)
He plays tennis. (เขาเล่นเทนนิส)
I will clean the house tonight. (ฉันจะทำความสะอาดบ้านคืนนี้)
ประโยค Passive Voice คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ
Subject + Verb to be + Verb 3 (Past Participle) |
ตัวอย่างเช่นThe book was written by me.
I was punished by the teacher.
I was punished by the teacher.
หลักการเปลี่ยนประโยค Passive Voice เป็น Active Voice ในกรณีต่างๆ1. กรณีที่ประโยคมีกรรมตัวเดียว (Direct Object) 1.1 เปลี่ยนกรรม (object) ในประโยค Active Voice มาเป็นประธานในประโยค 1.2 เปลี่ยนประธาน (subject) ในประโยค Active Voice มาเป็นกรรมในประโยค พร้อมกับใส่คำว่า “by” ด้านหน้า 1.3 ทำการผันรูปกริยาให้อยู่ในช่องที่ 3 (Past Participle) พร้อมกับเติม Verb to be ด้านหน้า เช่น is, am , are, was, were, be, being, been ซึ่งขึ้นอยู่กับ Tense ของประโยคนั้นๆ 2. กรณีที่ประโยคมีกรรมตรง (Direct Object) และกรรมรอง (Indirect Object) ตัวอย่าง My sister gave me a birthday present. 2.1 เรานิยมนำกรรมรอง (Indirect Object) ขึ้นมาเป็นประธาน เช่น I was given a birthday present by my sister. 2.2 เราสามารถนำกรรมตรง (Direct Object) ขึ้นมาเป็นประธานได้ แต่จะต้องใส่ “to” หน้ากรรมรองเสมอ เช่น A birthday present was given to me by my sister. ข้อสังเกต 1. เราไม่จำเป็นต้องระบุผู้กระทำลงไปในประโยค Passive Voice ในกรณีที่ - ประโยคนั้นไม่ต้องการที่จะเน้นผู้กระทำ เช่น Our new house is going to be built next month. (ละผู้กระทำไป เนื่องจากต้องการที่จะเน้นถึงบ้านหลังใหม่ว่ากำลังจะถูกสร้างเท่านั้น - ต้องการละผู้กระทำไว้ เนื่องจากเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว เช่น The thieves were all arrested (ละคำว่า by police เนื่องจากเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าตำรวจมีหน้าที่จับขโมย) - ไม่ทราบว่าใครคือผู้กระทำ เช่น This building was built in 1999. (เราไม่ทราบว่าใครเป็นผู้สร้างตึกนี้ รู้เพียงแต่ว่าตึกนี้ถูกสร้างมาในปี 1999) ตัวอย่างการผันรูปเป็นประโยค Passive Voice แบบไม่มีผู้กระทำ Active Voice: We must strictly follow the company rules. เราจะต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของบริษัทอย่างเคร่งครัด Passive Voice: Company rules must be strictly followed. (ละเว้นคำว่า “by us” ออกไป) กฎเกณฑ์ของบริษัทจะต้องได้รับการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 2. เราสามารถสร้างประโยค Passive Voice ในรูปแบบไม่เป็นทางการได้ด้วยการสร้างประโยคในรูปแบบของ Get-Passive ซึ่งเป็นการนำคำว่า “get” มาใช้แทน Verb to be ซึ่งมีโครงสร้าง ดังนี้
3. กริยาที่ไม่สมบูรณ์ด้วยตัวเอง (Linking Verbs) ไม่สามารถผันให้อยู่ในรูปประโยคของ Passive Voice ได้ เพราะ คำกริยาเหล่านี้ไม่สามารถมีกรรมได้ ซึ่งได้แก่
ตัวอย่างเช่น This soup tastes strange. (ซุปชามนี้รสชาติแปลก) I stayed in my room all day. (ฉันอยู่ในห้องของฉันทั้งวัน) |
วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)